Friday, July 6, 2018

Cacao Nibs





Cacao Nibs
คือ ผลที่ได้จากกระบวนการแปรรูปเมล็ดโกโก้ Cacao Powder มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Theobroma Cacao แบลว่าอาหารของพระเจ้า Cacao Powder ถูกสกัดด้วยวิธี Cold Pressing ทำให้สารอาหารที่มีประโยชน์อยู่ครบถ้วน

Cacao Nibs เกิดจากการ Havesting เก็บเกี่ยวผลโกโก้ที่โตเต็มที่จะถูกเด็ดจากต้น ได้ผลโกโก้มา เมล็ดโกโก้อยู่ในฝัก แกะออกแล้วนำมาหมักต่อเพื่อขจัดเมือก Fermenting เมล็ดโกโก้พพร้อมเมือกจะถูกในไปหมัก 2-3 วันเพื่อช่วยให้รสชาตินุ่มนวลขึ้น เมือกที่เกาะตัวจะเริ่มอ่อนตัวแล้วสลายไป พร้อมนำไปตาก Drying เมล็ดจะถูกนำไปตากจนแห้งสนิทและพร้อมลงไปยังโรงงานทำชอคโกแลตทั่วโลก

Roasting การอบ เมล็ดโกโก้มากมายจะถูกลำเลียงเข้าเครื่องอบเพื่อดึงรสชาติของโกโก้ออกมาให้ได้มากที่สุด
Cracking เมล็ดโกโก้ที่อบแล้วจะถูกแกะเปลือกออก ด้านในเปลือกเราเรียกว่า Cocoa Nibs

Grinding บด โกโก้นิปส์จะถูกนำไปบดด้วยเครื่องจักร จนได้เป็น Paste หรือ Cocoa Mass / Cocoa Liquor โดยโกโก้แมสจะถูกนำไปบดแยกส่วนและออกมาเป็น Cocoa Solid และ Cocoa Butter ส่วนใหญ่แล้วจากขั้นตอนนี้โรงงานผลิตจะนำไปผสมในสัดส่วนใหม่ หรือวัตถุดิบอื่นๆอย่างเช่น น้ำตาล / นมผง กลายเป็นชอคโกแลตในแบบต่างๆตามท้องตลาด

Tempering and Packing Chocolate จะต้องผ่านขั้นตอน Tempering ขั้นตอนนี้สำคัญมากเพราะต้องอาศัยประสบการณ์จากผู้ทำชอคโดแลต การเทมเปอร์ที่ดีจะส่งผลให้ชอคโกแลตเกิดพื้นผิวที่สวยงาม ไม่เป็นชั้นลายหินอ่อนหรือการระลายของชั้นน้ำตาล เวลารับประทานจะละมุนลิ้นมากกว่า  การทำละลายชอคโกแลตให้เย็นลงและอุ่นให้เหลงอีกครั้ง ก่อนนำไปเลใส่แม่พิมพ์พร้อมบรรจุขาย


ดูเพิ่มเติมได้ที่ :http://www.chocolasia.com/
http://www.chocolasia.com/
http://coffeeconstruct.com



เว็บไซต์อื่นๆ :
http://www.beltandbearings.com
http://www.chocolasia.com/


Friday, September 16, 2016

billboard made from 390kg of pure chocolate








billboard made from 390kg of pure chocolate
ป้ายโฆษณากินได้ทำจากช็อคโกแลตที่บริสุทธิ์ได้รับการกินในเวลาเพียง
สามชั่วโมง!!



ไอเดียสร้างสรรค์ปนเเปลกเเหวกเเนวของบริษัท Thorntons ที่ทำป้ายโฆษณาจากตัวช็อคโกแลตบริสุทธิ์เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายที่ไม่่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ในช่วงหน้าร้านที่ผ่านมา เค้าจึงร่วมมื่อกับฝ่ายโฆษณาของทางบริษัทเพื่อเเชร์ไอเดียสุดบรรเจิดนี้ ในช่วงคริสมาสของปี2007

การสร้างป้ายโฆษณาเเสนอลังการในวันอีสเตอร์ เป็นครั้งแรกในโลกที่ทำจากช็อคโกแลต ทั้งกระต่าย ไข่อีสเตอร์ ช็อคโกแลตขนาดยักษ์และ 128 แผงช็อคโกแลตป้ายโฆษณานี้ใช้เวลาสามเดือนในการวางแผนและ ใช้เวลากว่าา300 ชั่วโมง ในการทำช็อคโกเเลตเเต่ละขั้นตอนการผลิตสำหรับทีมงานของในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อจัดกิจกรรมพิเศษในวันอีสเตอร์





วันอีสเตอร์เป็นวันสำคัญชาวคริสต์แต่ละครอบครัวจะแต่งตัวสวยงาม มาร่วมพิธีกรรมในโบสถ์ พร้อมร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า นอกจากนี้ บางครอบครัวก็มักจะตกแต่งไข่เป็นลวดลายสีสันต่าง ๆ เพื่อนำมามอบให้แก่กันและกัน ส่วนบางโบสถ์ก็จัดกิจกรรม ร่วมรับประทานเพื่อเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ รวมไปถึงจัดเกมสนุก ๆ ให้แต่ละครอบครัวหาไข่อีสเตอร์ ที่ถูกซ่อนเอาไว้ในพุ่มไม้หรืกอหญ้าต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เฉลิมฉลองได้ช่วยกันค้นหา และได้ใช้เวลาแห่งความสุขในวันอีสเตอร์ร่วมกัน ในซีกโลกฝั่งตะวันตก เมื่อสิ้นฤดูหนาวก็จะเป็นฤดูใบไม้ผลิซึ่งเป็นช่วงเวลาของการเพาะปลูกและการเริ่มชีวิตอันสดใสอีกครั้งหลังจากความหนาวเหน็บในฤดูหนาวได้ผ่านพ้นไป หลายๆ ศาสนาในสมัยโบราณมีประเพณีการฉลองฤดูใบไม้ผลิ การฉลองดังกล่าวก็คือเทศกาลแห่งการกินดื่มและขอพรให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ด้วยเหตุผลที่ว่าไข่เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่ ส่วนกระต่ายนั้นเป็นที่รู้กันว่ามีลูกดกและแพร่พันธุ์เร็ว ทั้งไข่และกระต่ายจึงเป็นสัญลักษณ์ของทั้งชีวิตใหม่และความหวัง คริสเตียนในประเทศตะวันตกจึงนำเอาทั้งไข่และกระต่ายมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่แห่งการฟื้นคืนพระชนม์ของพระคริสต์





หลายร้านที่ทำช็อคโกเเลตขายต่างออกเเบบไข่อีสเตอร์ในเเบบต่างๆกัน โดยบริษัท Thorntonsคงจะเป็นที่ฮือฮาที่สุดในปีนั้น
"เรากังวลว่ามันจะร้อนเกินไปเย็นเกินไปหรือถ้ามันจะมีฝนตก แต่ในท้ายที่สุดมันก็เป็นแค่นิด ๆ หน่อย ๆในช่วง ที่อากาศหนาวเย็น." ทีมงานกล่าว

ผู้บริหารไมค์เดวีส์กล่าวว่าป้ายเป็น "การลงทุนที่ดีคุ้มค่า." "เราจะเริ่มตระหนักถึงประโยชน์จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในร้านค้าของเราการเพิ่มประสิทธิภาพของนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของเราและการเติบโตของยอดขายในเชิงพาณิชย์."

ช็อคโกเเลตเเละเฮเซลนัลจำนวนมากถูกอัดใส่เเม่พิมพ์ที่สังทำขึ้นมาพิเศษ การใช้เวลาทำนั้นจำเป็นต้องมีการวางเเผน เเละเเน่นอนว่านี่เป็นที่สำหรับคนทำช็อคโกเเลตระดับมืออาชีพทั้งหมด
มันน่าตื่นตาเมื่อได้เห็นช่างทำช็อคโกเเลตมืออาชีพมารวมตัวกันเพื่อทำป้ายโษณากินได้ชิ้นนี้




เมื่อวันที่นำมาเเสดง ช๊อคโกเเลตขนาดใหญ่ รูปร่างสวยงาม เป็นป้ายโฆษณาที่กินได้เเผ่นเเรกของโลก ถูกนำมาตั้งที่ปดระเทศอังกฤษ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ มีเด็กจำนวนมาที่มานั่งรอคอยที่จะเห็นเเผ่นช็อคโกเเลตยักษ์ เพียงเเค่เวลาไม่นานที่ป้ายนำมาติดตั้ง ก็ถูกเด็กๆรวมไปถึงผู้ใหญ่หัวใจช็อคโกเเลต ต่างกัดกินป้ายโฆษณาหมดไม่เหลือในเวลาเพียงเเต่3ชั่วโมง..

เรื่องของช็อคโกเเลตมีให้ติดตามอ่านได้ที่นี่..

ดูเพิ่มเติมได้ที่ :https://www.facebook.com/Chocolate-Cocoa-Creator-1019017831539096/

#ช็อคโกเเลต
เว็บไซต์อื่นๆ :
http://www.beltandbearings.com

Monday, September 12, 2016

ROYCE’ ทำช็อคโกเเลตเข้มข้นในรูปแบบไอศกรีมโคน!




ว่ากันว่าใจเเข็งเเค่ไหนถ้าเจอของหวานอย่างช็อคโกเเลตนี่ ก็ต้องในสั่นด้วยกันทุกราย
ไม่ว่าจะมาในรูปเเบบของช็อคโกเเลตบาร์ เค้ก เครื่องดื่ม หรือไม่ว่าช็อคโกเเลตจะถูกจับคู่
กับผลไม้ใดใดนโลกก็ดูจะเข้ากั๊นนเข้ากันไปซะหมด ...


พักเรื่องเเคลลอรี่่ไว้ก่อน..
เพราะช๊อคโกเเลตที่จะมาเเนะนำให้รู้จักวันนี้คงต้องสะกิดต่อมความอยากให้น้ำย่อยเดินกับบ้างเเหละน่าาา



ช็อคโกแลตเข้มข้นจาก ROYCE’ ในรูปแบบไอศกรีมโคน! จากบรรดาขนมหวานจาก ROYCE’ ที่ครั้งนี้มาในรูปแบบของไอศกรีมโคน เต็มเปี่ยมอัดแน่นไปกับรสชาติสุดพิเศษ อัลมอนด์ที่มีกลิ่นหอมๆ และรสสัมผัสของไอศกรีมช็อคโกแลตเน้นๆ ข้างในเเท่งของไอศกรีมโคนสุดพิเศษที่เป็นช็อคโกแลตลาวาจาก ROYCE’ เรียกได้ว่าผสมผสานได้อย่างลงตัวจนได้รับความนิยมจากใน Social Media ต่างๆ ของคนญี่ปุ่น ทั้งทาง Instragram และ Twitter เลยทีเดียว



สำหรับตอนนี้ที่โฆษณาเเละสื่อต่าางๆของญี่ปุ่นแทบไม่ต้องประโคมค่าโฆษณาเเต่ด้วยรสชาติเเล้วถือว่าได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากชาวญี่ปุ่นผู้ซึ่งชื่นชอบช็อคโกแลตจาก ROYCE’ DESSERT SERIES เช่น ไอศกรีมแซนวิชคุ้กกี้ หลายๆ แบบที่ถูกนำออกมาขายก็เป็นที่ถูกใจของผู้ที่ได้ลองลิ้มชิมรสกันไป และไอศกรีมช็อคโกแลตในรูปแบบของไอศกรีมโคนซึ่งแน่นอนค่ะ ซึ่งเป็นการพัฒนาและผลิตร่วมกันระหว่าง ROYCE’ และบริษัทผลิตไอศกรีมชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง AKAGI นั่นเอง ฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องของรสชาติเลยล่ะค่ะ
ถ้าพูดถึง ROYCE’ ทุกคนก็อาจจะรู้จักกันอยู่ในนามของแบรนด์ขนมชื่อดังจากฮอกไกโด โดยมีผลิตภัณฑ์ช็อคโกแลตเป็นจุดเด่น และตอนนี้ได้เป็นผลิตภัณฑ์ในซีรี่ส์ของไอศกรีมมาเรื่อยๆ ให้แฟน ROYCE’ ได้อุดหนุนกัน


รสชาติแห่งความพรีเมียมที่อัดแน่นไอศกรีมโคนของ ROYCE’ แท่งนี้สามารถซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปในญี่ปุ่น แพคเกจที่สื่อถึงความเป็น ROYCE’ ซึ่งมีความเรียบง่ายแต่หรูหราแฝงอยู่ เมื่อลองเปิดซองไอศกรีมจะได้กลิ่นหอมๆ ของช็อคโกแลต และเรื่องของรสชาตินั้นต้องบอกเลยว่าเข้มข้นจริงๆ

ด้านบนของไอศกรีมช็อคโกแลตโรยด้วยอัลมอนด์บดหยาบ และผสมผสานกันอย่างลงตัวกับตัวไอศกรีมนุ่มๆ เมื่อได้รับประทานไปพร้อมๆ กัน
นอกจากไอศกรีมช็อคโกแลตที่มีความนุ่มและรสชาติที่เข้มข้นแล้ว เมื่อกัดเข้าไปในไอศกรีมนี้จะพบกับช็อคโกแลตลาวาสดๆ ที่ถูกใส่เข้ามาอย่างเต็มแน่น เมื่อได้ลองกินด้วยกันพร้อมกับไอศกรีมช็อคโกแลต สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี
ถัดมาในรสชาติของตัวโคนกรอบ ก็สามารถสัมผัสได้ถึงรสชาติของ ROYCE’ ด้วยเช่นกัน ด้านในของโคนเคลือบช็อคโกแลต เรียกได้ว่าเอาใจคอช็อคโกแลตชนิดที่แบบกัดไปทุกคำก็ได้รสสัมผัสของช็อคโกแลตกันเลยล่ะค่ะ
น่าทานมากๆ เลยใช่ไหมคะ สำหรับไอศกรีมโคน ROYCE’ แท่งนี้ ใครมีโอกาสไปญี่ปุ่นพอดีก็สามารถซื้อหากันได้ตามร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไปเลย ทานแล้วฟินกันขนาดไหน กลับมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ

แหม อยากให้เข้าไทยบ้างจังเลย สำหรับสาวๆไทยคนไหนที่ชื่อชอบก็นั่งคอยนอนคอยกันไปอีกสักพักนะคะ เพราะคงไม่นานก็น่าจะมีบริษัทใจดีนำเข้ามาให้เราได้ลองชิมกันบ้างเเหละจ้าา…

#ช็อคโกเเลต
เว็บไซต์อื่นๆ :
http://www.beltandbearings.com



Friday, September 9, 2016

ร้านช็อคโกเเลตที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต


ช็อกโกแลตเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน แต่ทว่า การมีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศต่างๆและไม่รู้ว่าประเทศเหล่านั้นมีชื่อเสียงด้านช็อกโกแลตแล้ว ก็น่าเสียดายนะคะ จึงขอนำเสนอ 10 เมืองที่เป็นศูนย์รวมช็อกโกแลตชื่อดังต่างๆมาให้ เพื่อที่จะได้เจาะเข้าไปถูกสถานที่ ไปดูกันเลยดีกว่า




10. Cologne, Germany
เมือง Cologne เป็นที่ตั้งของบริษัท Stollwerck ซึ่งเป็นซับพลายเออร์อันดับสองที่ส่งออกช็อกโกแลตออกไปยังประเทศสหรัฐฯ บริษัทนี้ยังมีพิพิธภันฑ์เป็นของตัวเองด้วย

ร้านแนะนำ
ปกติแล้วช็อกโกแลตของ Stollwerck จะมีวางขายตามร้านค้าทั่วไปโดยจะมาในรูปแบบแบรนด์ต่างๆ เช่น Sarotti, Sprengel, Gubor, Alpia, or Stollwerck หรือสามารถหาตามร้านอื่นๆอีกได้เช่น La Maison du Chocolate, Tortchen Tortchen, Weibler Confectionery, Demnitz Chocolaterie, Mama Chocolate และ Leonidas Chocolates.



9. Tain L’Hermitage, France
เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆใช้เวลาไม่นานจากเมือง Lyon ชื่อผู้ผลิตช็อกโกแลตชื่อดังเมืองนี้คือ Valrhona เมืองนี้ยังมีโรงเรียนชื่อ Valrhona Ecole du Grand Chocolat ซึ่งสอนเกี่ยวกับการทำช็อกโกแลตโดยเฉพาะ อยากไปศึกษาแวะไปได้นะคะ

ร้านแนะนำ
เมืองนี้การแข่งขันไม่ค่อยมากนักเนื่องจากเป็นเมืองเล็กๆ ก็มีแต่ร้านที่เป็นของ Valrhona เท่านั้นแหละ ซึ่งบริษัทนี้ได้กลายเป็นหนึ่งผู้ผลิตช็อกโกแลตชั้นนำของโลกไปแล้ว


8. Hershey, Pennsylvania
เมืองนี้ขึ้นเชื่อว่าเป็นเมืองที่หวานที่สุดของโลก (The Sweetest Place on Earth) มีสองบริษัทใหญ่ๆคือ The Hershey Company กับ H. B. Reese Candy Company นอกจากนั้นแล้วยังได้ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเช่น Hershey’s Chocolate World, The Hershey Story Museum และ Chocolate Spa.

ร้านแนะนำ
ร้านที่ดีที่สุดคือ Hershey’s Chocolate World ซึ่งมีกิจกรรมการลองชิมช็อกโกแลต และร้านอื่นๆเช่น Café Zooka และ Cocoa Beanery




7. New York, New York
ช็อกโกแลตในมหานครนิวยอร์กมาจากหลากหลายสถานที่รวมกัน แต่ถ้าจะทัวร์ชิมและอยากรู้ที่มาของช็อกโกแลตทั่วเมืองละก็ New Cuisine Chocolate Tour หรือ Luxury Chocolate Tour สามารถช่วยคุณได้

ร้านแนะนำ
ที่แนะนำก็จะมี Chocolate Bar, MarieBelle, Li-Lac และ Richart Design et Chocolat แต่ว่าที่สุดของที่สุดต้องยกให้ Jacques Torres Chocolate เลยค่ะ




6. Villajoyosa, Spain
เมืองนี้ได้ถูกขนานนามว่า เมืองแห่งช็อกโกแลต (Chocolate City) และเป็นที่ตั้งของผู้ผลิตช็อกโกแลตที่เก่าแก่ที่สุดของสเปนชื่อ Valor เมืองนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่บอกถึงวิธีการผลิตแบบพื้นบ้านด้วย

ร้านแนะนำ
Valor คือที่ที่ดีที่สุดถ้าจะซื้อช็อกโกแลต แต่ก็มีร้านอื่นๆด้วยนะครับ เช่น Chocolates Perez, Mokafe, Chocolates Clavileno, Siroco และ Jose Vinache Soriano.




5. San Francisco, California
เมืองนี้เป็นที่ตั้งของบริษัทผลิตช็อกโกแลตที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของสหรัฐฯ คุณยังสามารถทัวร์ชิมช็อกโกแลตในซานฟรานซิสโกได้เหมือนกับนิวยอร์กด้วยนะ

ร้านแนะนำ
นอกจากย่าน Ghirardelli Square แล้ว คุณยังสามารถไปที่ร้านต่างๆ เช่น Michael Recchiuti, XOX Truffle, Richart San Francisco, Cocoa Bella, TCHO, Coco-Luxe และ Christopher Elbow Artisinal Chocolates.




4. Oaxaca, Mexico
ชาวเมโสอเมริกันเป็นชนกลุ่มแรกที่บริโภคช็อกโกแลต ปัจจุบันนี้ชาวเมือง Oaxaca มีช็อกโกแลตเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไปแล้ว แม้แต่นักท่องเที่ยวที่มาเมืองนี้ ก็ต้องมีติดไม้ติดมือให้โดยชาวเมือง วิธีการทำช็อกโกแลตที่นี่ดูเป็นวิธีเก่าแก่หน่อย

ร้านแนะนำ
Moyordomo, Guelaguetza และ La Soledad และซึ่งตั้งอยู่บนถนน 20 de Noviembre




3. Barcelona, Spain
ชาวสเปนถือว่าเป็นชนกลุ่มแรกที่ได้ลิ้มลองช็อกโกแลตหลังจากที่ได้นำมาจากโลกใหม่ เมืองนี้จึงกลายเป็นศูนย์กลางของการบริโภคช็อกโกแลตไปแล้ว และยังมีพิพิธภัณฑ์ไว้เฉลิมฉลองด้วยชื่อ Museo de La Xocolata

ร้านแนะนำ
ปัจจุบันสเปนได้กลายเป็นประเทศที่ผลิตช็อกโกแลตที่คุณภาพดี มีบริษัทใหญ่ Antoni Amatller และ Simon Coll หาซื้อได้ที่ตามร้าน เช่น Chocolates Amatller และ Chocolate a la Taza นอกจากนั้นยังมีร้าน Dulcinea, Fargas และ Pasteleria Escriba



2. Zurich, Switzerland
Zurich ถือเป็นเมืองศูนย์กลางการผลิตช็อกโกแลตโดยมีบริษัทหลายหลาย เช่น Cailler-Nestle, Toblerone, Lindt, Treuscher และ Sprungli ในเมืองยังมีทัวร์บริการชื่อว่า “The Swiss Chocolate Train” ซึ่งจะนำคนชอบช็อกโกแลตเดินทางจาก Montreux ไปยัง Broc ที่ตั้งของโรงงาน Cailler-Nestle

ร้านแนะนำ
Treuscher, Lindt และ Spungli นอกจากนั้นยังมีช็อปบูทิค เช่น Zurich include Truffe, Schrober และ Merku





1. Brussels, Belgium
เบลเยียมเป็นสวรรค์ของคนรักช็อกโกแลตเลยทีเดียว ซึ่งมีผู้ผลิตกว่า 12 บริษัท พิพิธพัณฑ์ 16 แห่ง และ ช็อปกว่า 2,100 แห่ง มีบริษัทยักษ์ใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ Godiva และ Leonidas ถ้ามีโอกาสมาเบลเยียม อย่าลืมมาเยี่ยม Musee du Cocao et du Chocolate เพราะเค้าจะสอนวิธีทำช็อกโกแลต

หากใครมีกำลังทรัพย์มากพอหรือมีทริปที่จะไป1ในประเทศที่ลิสมาก็อย่าลืมไปเช็คอินลงเฟส ลงไอจีให้ดูเก๋ๆชิคๆกันด้วยนะคะ
อย่าลืมใส่แฮชเเท็คร้านช็อคโลเเลตที่ดีที่สุดในโลก ให้คนไม่ได้ไปอิจฉาตาเป็นไฟกันไปข้าง
เจอกันใหม่บทความหน้าค้าา..




#ช็อคโกเเลต
เว็บไซต์อื่นๆ :
http://www.beltandbearings.com











Wednesday, September 7, 2016

ช็อคโกเเลตบำบัด


เมื่อคนเราสามารถพัฒนาให้ขนมเป็นยา เอ๊ะ!หรือพัฒนาให้ยาไม่ใช่สารเคมีอีกต่อไป

นี่เป็นเพียงการพัฒนาช็อคโกเเลตที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป้นตัวการของภาวะโรคอ้วนเเต่ประโยชน์ของมันกลับถูกมองข้ามอย่างน่าเสียดาย มันคือโปรเจคช็อคโกเเลตบำบัด



Very Chocolate เป็นแบรนด์ช็อกโกแลต ที่มีเเนวคิดในการทำช็อคโกเเลตที่จะให้ประโยชน์กับร่างกายอย่างเเท้จริงเพราะมันช่วยรักษาโรคต่างๆเเทนการทานยาได้ อู้หูววววช่างคิด

เเค่เปลี่ยนแพคเกจคล้ายห่อยา เพื่อชี้ว่าช็อคโกแลตสามารถรักษาและบำบัดสารพัดอาการได้จริง





Very Chocolate แบรนด์ช็อกโกแลตชื่อดังในประเทศฮ่องกง หลายคนคงทราบดีว่านักโภชนาการหลากหลายสาขา มักแนะนำเสมอว่าให้ทานช็อกโกแลตเพื่อลดความเครียด เพื่อต่อต้านมะเร็ง เพื่อลดอาการปวดในวันนั้นของเดือน

แต่เพราะช็อกโกแลตเป็นขนมไม่ใช่ยา แต่ Very Chocolate ซึ่งเป็นช็อกโกแลตเข้มข้น ทำมาจากผงโกโก้คุณภาพถึง 85% เราจึงได้รับประโยชน์จากโกโก้เข้าสู่ร่างการโดยตรง ฉะนั้นเมื่อทานเข้าไปแล้วสามารถรักษาและบำบัดสารพัดอาการได้จริงๆ เพราะไม่ใช่ช็อคโกเเลตที่มีขายทั่วไปที่ผสมน้ำตาลเข้าไปจำนวนมหาศาลเเละไขมันทรานส์มากมาย





ดังนั้นทีมการตลาดของแบรนด์จึงตัดสินใจนำคุณสมบัติที่ไม่เคยบอกในแพคเกจ มาเป็นการดีไซน์แพคเกจใหม่เสียเลย จากการใส่ชื่อแบรนด์ Very Chocolate ธรรมดาๆ ทีมงานก็นำเอาคุณสมบัติด้านการรักษาและบำบัดโรคต่างๆ ที่แพทย์บอกไว้ จัดวางบนแพคเกจ


ผลก็คือ การได้แพคเกจสินค้าที่ไม่ธรรมดาดูเเปลกตาจนคิดไม่ถึงว่านี่เเหละคือเเพคเกจช็อคโกเเลต และบอกผู้บริโภคชัดเจนว่าทานช็อกโกแลตแท่งนี้แล้วจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นในด้านไหนบ้าง


และแค่เปลี่ยนแพคเกจยังไม่พอ การทำให้ผู้บริโภครับรู้ว่าแบรนด์ฉันเปลี่ยนแพคเกจจิ้งแล้วนะ ก็ต้องใช้สารพัดสื่อเข้าช่วย อาทิ นิตยสาร บิลบอร์ด โฆษณาในห้างตั้งแต่ทางเข้า ไปจนถึงโฆษณา ณ จุดขายที่ชั้นขายช็อคโกแลตนับเป็นการเปลี่ยนเเปลงที่ลงทุนเยอะจริงๆ





นับว่าเป็นเรื่องที่ดีๆที่ทำให้คนมองประโยชน์ของช็อคโกเเลตได้ชัดเจนมากขึ้นนะคะก็คงเหมือนกับหลักจิตวิทยาที่คนเรามักจะมองอะไรจากภายนอกก่อนเสมอการเปลี่ยนเเพ็คเกจให้มีลักษณะคล้ายกับยาก็คงทำให้คนที่ทานรู้สึกว่ามันปลอดภัย
เเละช่วยลดความเครียดลงได้เรากินยาไปโดยที่เราไม่รู้เลยว่าสารเคมีจากยาช่วยเราได้เเค่ระยะสั้นเท่านั้น

การดูเเลร่างการให้ไม่มีความเสี่ยงจากโรคนั้นสำคัญกว่า เริ่มจากการรับประทานเลย เพราะถ้าหากเรารู้จักเลือกทานในสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างการจริงๆปันหาที่เกิดจากโรคภัยที่จะถามหาคงน้อยลงนะคะ


#ช็อคโกเเลต
เว็บไซต์อื่นๆ :
http://www.beltandbearings.com